Powerbank : Gadget ชิ้นต่อไปของคุณ?
ถ้าถามถึง Gadget ที่หลายๆ คน อยากได้เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว อาจจะมีคนโหวตให้สมาร์ตโฟนมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะกำลังเป็นที่นิยมและคนที่ใช้งานจริงๆ ก็มีไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกันกับอัตราส่วนของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ในปัจจุบันนี้โลกได้เปลี่ยนไป ทุกๆ คน มีสมาร์ตโฟนใช้กันหมดแล้ว แล้วอะไรล่ะคือ สิ่งที่คุณจะซื้อเป็นอันดับต่อไป
หลากหลายคำตอบเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่เกียวข้องกับสมาร์ตโฟนคู่ใจที่คุณใช้งานอยู่ แต่หนึ่งคำตอบที่โดนใจสำหรับคนทีใช้สมาร์ตโฟนจนเห็นสัจธรรมข้อหนึ่งที่ว่า สมาร์ตโฟนของคุณนั้นถ้าจะใช้งานกันจริงๆ คงไม่พ้นวัน แบตเตอรี่ที่ชาร์ตมาเต็มๆ คงหมดเสียก่อน ซี่งนั่นทำให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนบ่นกันมากกับอัตราการบริโภคแบต ที่มากเหลือเกิน โดยเฉพาะกับยุคที่ 3G ในเมืองไทย เริ่มกระจายเสาขยายสัญณาณเพื่อให้เราได้บริโภคอินเตอร์เน็ต 3G ทีเร็วแรงมากขึ้น และสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ๆ หน้าจอใหญ่ๆ CPU แรงๆ ด้วยปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้อายุแบตเตอรี่ในสมาร์ตโฟนสั้นลงหรือหมดเร็วกว่าขึ้นนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ Gadget ชิ้นต่อไปที่คนทั่วไปอยากจะได้มาแบบด่วนๆ ตอนนี้เลยคงหนีไม่พ้นอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Power Bank หรืออาจจะเรียกว่าเป็นแบตสำรองนั่นเอง ซี่งในสมัยก่อนที่มือถือยังสามารถเปิดใช้งานได้ 2-3 วัน หากต้องการใช้งานนานกว่านั้น คุณจะต้องไปซื้อแบตสำหรับมือถือรุ่นนั้นๆ มาชาร์ตเก็บไว้เพื่อสลับเปลี่ยนเวลาแบตหมด แต่ปัจจุบันวีธีการเช่นนั้น ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้ว เพราะความยุ่งยาก เปิดปิดฝาหลัง ไหนจะต้องปิดเปิดเครื่องเพื่อสลับแบตอีก ดังนั้น Power Bank จึงกลายเป็นคำตอบของคนยุคปัจจุบันที่ขาดการติดต่อสื่อสารแทบไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวไปแล้ว
แบตสำรองหรือ Power Bank จีงเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆ คนกำลังมองหา โดยตัวมันเองนั้นเป็นแบตเตอรี่ทั้งก้อน แต่แทนที่จะได้รับการออกแบบให้เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับมือถือแต่ละรุ่นไปเลยเหมือนแต่ก่อน มันกลับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน รวมถึงแท็บเล็ตและอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ ผ่านทางพอร์ต USB ซึ่งอุปกรณ์เดี๋ยวนี้สามารถชาร์ตผ่านพอร์ต USB ได้เพื่อความสะดวกอยู่แล้ว และกลายเป็นมาตรฐานในวงการมือถือไปเรียบร้อยแล้ว
Power bank จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ โดยก่อนที่จะใช้งานได้คุณจะต้องชาร์ตตัว Power Bank เสียก่อน จากนั้นเมือใช้งาน มันจะจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณนำมาเชื่อมต่อกับตัวมัน เหมือนกับกำลังเสียบอแดปเตอร์ชาร์ตไฟ หรือเสียบกับ USB ของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
No comments:
Post a Comment