โดยพื้นฐานแล้ว มนุษย์เราเป็นสัตว์โลกที่ขี้เกียจ
ซึ่งความขี้เกียจนี้ก็ถือเป็นแรงผลักดันหนึ่ง
ให้เราคิดค้นเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ นานา
เพื่อให้งานที่ต้องทำบรรลุเป้าหมายโดยใช้แรงกายน้อยที่สุด
การไขว่คว้าหาทางลัดก็เป็นอีกนิสัยพื้นฐานหนึ่งของมนุษย์
ไม่ว่าจะเป็นทางลัดที่ช่วยให้ไปถึงที่หมายเร็วขึ้น
ทางลัดที่ช่วยให้รวยเร็วขึ้น ไปจนถึงทางลัดที่ช่วยให้ผอมเร็ว
โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอดให้ยุ่งยาก
กระแสเห่อทางลัดช่วยผอมจึงมาแรงเป็นระยะๆ
แล้วก็จางหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
และคลื่นลูกล่าสุดที่กำลังมาแรงในช่วงนี้คือ กระแสดื่มชาอู่หลงเพื่อลดน้ำหนัก
เรามาดูข้อเท็จจริงกันค่ะว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
แนวคิดว่าชาอู่หลงน่าจะช่วยลดน้ำหนักได้
มาจากงานวิจัยในหลอดทดลองที่พบว่า สารโพลีฟีนอลในชา
หรือที่มีชื่อเรียกยากๆ ว่า Oolong tea polymerized polyphenols (OTPP)
มีคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์ไลเปสจากตับอ่อน1 ไลเปสเป็นเอนไซม์ที่มีบทบาทสำคัญ
ในการย่อยสลายไขมันจากอาหาร ช่วยให้ไขมันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
เมื่อเอนไซม์ตัวนี้ถูกยับยั้ง การดูดซึมของอาหารประเภทไขมันก็ลดลง
เป็นกลไกเดียวกันกับยาลดความอ้วนบางตัวที่ใช้ในปัจจุบัน
นอกจากลดการดูดซึมของไขมันแล้ว ยังมีอีกการศึกษาในหญิงชาวญี่ปุ่นที่พบว่า
การดื่มชาอู่หลงช่วยเพิ่มการเผาผลาญขณะพักในเวลา 120 นาทีหลังดื่มได้ราวร้อยละ 10
เมื่อเทียบกับชาเขียวซึ่งเพิ่มได้เพียงร้อยละ 4.2
และยังมีการศึกษาจากจีนซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างเป็นคนอ้วนมากถึง 102 คน
พบว่าเมื่อให้ดื่มชาอู่หลงทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ร้อยละ 22 ของกลุ่มตัวอย่างมีน้ำหนัก
ลดลงเกินกว่า 3 กิโลกรัม และส่วนที่ลดเป็นไขมันบริเวณพุงมากกว่าส่วนอื่นๆ 3
แม้ว่าจะมีงานวิจัยสนับสนุนอยู่หลายชิ้น แต่ถ้าได้ตามไปอ่านงานเหล่านี้โดยละเอียดจะพบว่า
ยังไม่มีการทดลองแบบเปรียบเทียบโดยมีกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่
และมีการควบคุมปัจจัยอื่นๆ ที่ดีเพียงพอ
อีกทั้งในการทดลองทั้งหมดจะใช้เป็นชาอู่หลงจริงๆ
ไม่ใช่แบบบรรจุขวดสำเร็จรูปอย่างที่วางขายในท้องตลาดเมืองไทย
สำหรับชาแบบขวดที่ขายในไทย
มีงานวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งจากมหาวิทยาลัยศิลปากรพบว่า
ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและ
ปริมาณสารในกลุ่มโพลีฟีนอลในชาเขียวขวดที่วางขายแต่ละยี่ห้อ
มีน้อยกว่าชาเขียวชงสดอย่างมีนัยยะสำคัญ
เสียดายที่ในงานชิ้นนี้ไม่ได้มีการนำตัวอย่างชาอู่หลงบรรจุขวดมาวิเคราะห์ด้วย
จึงยังสรุปแบบฟันธงไม่ได้ว่าสารโพลีฟีนอลตัวสำคัญคือ OTPP ในชาอู่หลงขวดนั้น
จะยังมีประสิทธิภาพคงอยู่ครบถ้วนเพียงใด
สำหรับชาอู่หลงขวดที่วางขายในท้องตลาดเมืองไทยนั้น หากพลิกอ่านฉลากโภชนาการก่อน
ตามหลัก “อ่านก่อนผอมกว่า” จะพบว่า บางยี่ห้อมีการเติมน้ำตาลลงไปมากถึง 28 กรัมต่อหนึ่งขวด
ซึ่งรับประกันได้ว่า ดื่มแล้วหวานชื่นใจแต่พุงกะทิไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน
ดังนั้น หากจะซื้อรับประทาน ควรซื้อแบบใบชาจริงๆ มาต้มหรือชงดื่ม แต่ถ้าจะซื้อเป็นแบบบรรจุขวด
ควรพลิกอ่านฉลากโภชนาการก่อน และซื้อเป็นแบบไม่ใส่น้ำตาล
สรุปแล้ว "ชาอู่หลง" เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจในการลดน้ำหนัก แต่ไม่ได้ช่วยมากมายนัก
และไม่ใช่ทางลัดหรือคำตอบสุดท้ายที่ทำให้น้ำหนักลดหรือผอมลงอย่างแน่นอน
อย่างไรเสียการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกวิธี และการออกกำลังกาย
ยังคงเป็นคำตอบหลักของความผอมพร้อมสุขภาพดีค่ะ
No comments:
Post a Comment